ทำความเข้าใจกับกล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรด

ถ้าพูดถึงกล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรด (Infrared : IR) ทุกคนก็จะต้องเข้าใจว่า เป็นกล้องวงจรปิดที่มีหลอดไฟสีแดงติดสว่างรอบๆ เลนส์ หรือส่วนรับสัญญาณภาพ ซึ่งจะมีตัวเซ็นเซอร์คอยตรวจจับสภาพแสง หรือที่เรียกกันว่า LDR และกล้องวงจรปิดประเภทนี้เลนส์ที่ใช้จะเป็นแบบ Board lens หรือ Fixed lens เช่น 3.6mm, 6mm และ 12mm เป็นต้น แต่ก็มีบางรุ่นที่รองรับการทำงานของเลนส์แบบ Vari-Focal lens เช่น 2.8-12mm ทำให้ราคาของกล้องประเภทนี้จะสูงมากเมื่อเทียบกับกล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรดที่เป็น Board lens.

ข้อดีของกล้องวงจรปิดประเภทนี้ คือตัวกล้องจะมีค่ามาตรฐานกันน้ำ เช่น IP54, IP56, IP66 และ IP68 ซึ่งในส่วนนี้ผมจะอธิบายในหัวข้อถัดไป และอีกคุณสมบัติเด่นของกล้อง คือ สามารถทำงานในพื้นที่ ที่มืดสนิดได้ดี ภาพที่ได้จะเป็นภาพขาว-ดำ มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย คือ กล้องวงจรปิดประเภทนี้จะมาพร้อมกับระยะการส่องสว่างของอินฟราเรด ยกตัวอย่างเช่น ระยะอินฟราเรด 10, 15, 30, 40, 60 และ 100เมตร ซึ่งต้องเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับหน้างาน และวัถตุประสงค์ เพราะถ้าวัตถุเข้าใกล้ตัวกล้องวงจรปิดมากเท่าไหร่ ภาพที่ได้ก็จะขาว และสว่างจ้า ทำให้ไม่ได้รายละเอียดของภาพ หรือการนำกล้องอินฟราเรดระยะสั้นๆ มาใช้กับหน้างานที่กว้างเกินไป ผลที่ได้จะทำให้ภาพออกมามืด เพราะระยะส่องสว่างไม่เพียงพอ และไม่มีการตกกระทบของลำแสงอินฟราเรด ผู้ใช้จะต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะติดตั้ง หรือสั่งซื้อให้ดีนะครับ หรือสอบถามกับทางเซลล์ที่จำหน่วย

สุดท้าย ผมลืมอธิบายไปว่า ทำไมกล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรด บางรุ่นสามารถมองเห็นการทำงานของหลอดอินฟราเรดด้วยตาเปล่าเป็นสีแดง และบางรุ่นไม่เห็นการทำงานของหลอดอินฟราเรด ก็คือ หลอดการทำงานอินฟราเรด (IR) โดยทั่วไปนั้นจะมีความถี่ของหลอดอยู่ที่ 850nm และอินฟราเรดที่มองไม่เห็นนั้นจะมีความถี่อยู่ที่ 950nm ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ที่จะเลือกใช้งานครับ...